7 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

8439 Views  | 

7 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built In) หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งเข้ากับพื้นที่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ กำลังเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ที่ต้องการใช้งานพื้นที่อย่างคุ้มค่า เพราะช่วยออกแบบการจัดวางได้อย่างลงตัวและมีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ แต่ก่อนที่เราจะเลือกซื้อนั้น ลองมาศึกษาข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินกันสักหน่อย ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
 
1.เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย
การเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่พักอาศัยอยู่คอนโดฯ ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ทำให้ต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์กับพื้นที่ที่มีอยู่ให้มากที่สุด  การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง โดยต้องใช้ชิ้นส่วนตามมาตรฐานโรงงาน ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากพอ หรือปรับให้มีความสูงตามขนาดของฝ้าเพดานได้ ต้องแก้ไขโดยการตีกล่องไม้ปิด ทำให้เราเสียพื้นที่ใช้สอยด้านบนไป หรือแม้แต่การหลบขอบเสาบ้านก็ไม่สามารถทำได้ ขาดความยืดหยุ่นในการออกแบบและผลิต
จะดีกว่าไหม? ถ้าหากผู้ผลิตสามารถออกแบบและผลิตได้ตามความต้องการของเรา ได้เหมือนกับเราออกแบบเสื้อผ้าสั่งตัด Tailor made แบบเฉพาะเจาะจงทำให้พอดีกับบ้านของเรา ตรงตามความชอบและความต้องการของเรา ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร
 
2. มีความแข็งแรง ทนทานและวัสดุคุณภาพดี
วัสดุที่เลือกนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป หรือเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตมักเลือกใช้ไม้ปาติเคิลบอร์ดกรุผิวเมลามีน มาเป็นวัสดุหลัก ซึ่งไม้ปาติเคิลบอร์ดนั้นจะผลิตจากเศษไม้ยางพาราขนาดที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดช่องว่างระหว่างเศษไม้ ที่อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้มาตรฐานตามที่ลูกค้าต้องการ
เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ดีควรเลือกใช้โครงไม้เนื้อแข็งกรุไม้อัด ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานนานถึง 20-30 ปี เพราะมีโครงสร้างเป็นไม้เนื้อแข็ง ประกอบกับไม้อัดยางคุณภาพดีเป็นส่วนของผนัง และปิดผิวด้วยลามิเนทหรือวีเนียร์ที่มีคุณภาพ รับประกันได้ว่าคุณจะได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่เหมาะสมกับงานใช้งาน แข็งแรง ทนทาน คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
 
3. ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์การใช้งาน
แน่นอนว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้นต้องตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน แต่นอกเหนือจากนั้นก็คือการใส่ใจในดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ผลิต เช่น ตู้เสื้อผ้าที่ไม่ได้ออกแบบมาเพียงแขวนเสื้อและกางเกงเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันสำหรับแขวนชุดยาว แขวนเข็มขัด เนคไท หรือเครื่องประดับ ไปจนถึงการออกแบบมาเพื่อจัดเก็บสิ่งของต่างๆ อาทิเช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องนอน กระเป๋าสะพายขนาดต่างๆ รองเท้า หรือแม้กระทั่งการจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้วางตู้เซฟ หรือตู้เย็นขนาดเล็ก เป็นต้น
 
4. อุปกรณ์ประกอบ (Fitting) ต้องของดีมีคุณภาพ
อุปกรณ์ประกอบ หรือ Fitting คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับนำมาประกอบกับโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์ ตัวอย่างเช่น บานพับสำหรับบานตู้ รางเลื่อนสำหรับลิ้นชัก รางเลื่อนสำหรับประตูบานเลื่อน ราวแขวนผ้า มือจับบานตู้ และปุ่มรับชั้นสำหรับชั้นวางของ ก็มีส่วนช่วยในการยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในการเลือก ปัจจุบันอุปกรณ์ประกอบ (Fitting) นั้นมีให้เลือกมากมายหลายราคา การเลือกใช้อุปกรณ์ประกอบ (Fitting) จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงก็สามารถรับประกันคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง แต่ในบางแบรนด์ก็ได้แบ่งเซกเม้นต์สินค้าด้วยราคาและคุณภาพที่แตกต่างกันไป จึงต้องใช้การพิจารณาความเหมาะสมของราคากับคุณภาพในถี่ถ้วน
 
5. ดีไซน์สวยงาม ใช้ได้จริง
ก่อนที่จะออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ดีนั้น ดีไซเนอร์และช่างเฉพาะทางต้องร่วมมือกันในการผลิตสินค้าออกมา เพราะจะแค่ดีไซน์สวยงามอย่างเดียวไม่ได้ รูปทรงต้องได้สัดส่วนเข้ากับพื้นที่ ฟังก์ชั่นต้องตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้จริงเราจึงควรเลือกผู้ผลิตที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถออกแบบได้ตรงตามความต้องการของเรา
 
6. ติดตั้งรวดเร็ว ไร้ฝุ่นและเสียงรบกวน
การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
  • แบบ Knock down
    ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเลือกใช้การผลิตแบบขนาดมาตรฐาน แล้วนำมาประกอบแบบ Knock down
    ข้อดี สามารถติดตั้งได้เสร็จรวดเร็ว
    ข้อเสีย คุณภาพของวัสดุและความไม่ยืดหยุ่นต่อพื้นที่ที่มีจำกัด

  • แบบ ติดตั้งโดยช่างไม้
    ข้อดี มีความยืดหยุ่นต่อสถานที่ สามารถแก้ไขได้ตามความต้องการของลูกค้า
    ข้อเสีย ใช้ระยะเวลาการติดตั้งนาน มีฝุ่นรบกวน และสร้างความเสียหายต่อสถานที่ แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของช่าง
 
7. การรับประกันผลงาน
นอกจากการเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกผู้ผลิต ผู้ผลิตควรมีความรับผิดชอบทั้งจากหน้างานและบริการหลังการขาย เช่น การรับประกันสินค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า
“สุดท้ายแล้วสำหรับการเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้พื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และตอบโจทย์กับการใช้งานของเรามากที่สุด ถ้ามีคำตอบชัดเจนในใจแล้วก็ถึงเวลาติดต่อกับผู้ผลิตที่พร้อมเนรมิตบ้านใหม่ให้กับคุณได้เลย”

 
อ้างอิง https://www.baan-d.com

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy